Sunday, October 15, 2006

Time to eBay

" สินค้าจากเมืองไทย ที่ขายดีใน อีเบย์ เสื้อยืดกระทิงแดง ราคาประมูลจะอยู่ที่ 10 เหรียญ ( ต้นทุนประมาณ 80 บาท ) แก้วสตาร์บัค ประเทศไทย ราคาประมูลอยู่ที่ 15-25 เหรียญ ( ต้นทุนประมาณ 100 บาท ) สินค้าหลายชนิดที่ผลิตเพื่อการสะสมและมีจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทย อย่าง ชุดแฮปปี้มีล ของแมคโดนัลด์ ชุดสนูปปี้ ราคาประมูลใน ebay เคยขึ้นไปถึง 100 เหรียญต่อชุด ( ต้นทุนประมาณ 700 บาท )
ตุ๊กตา m&m ชู้ตบาสสีเขียว ที่ออกในเมืองไทยเมื่อหลายปีที่แล้ว ราคาประมูลเรียกว่าถึงกับแย่งกันไล่ราคา เพราะราคาขึ้นไปถึงกว่า 300 เหรียญ ขณะที่ต้นทุนประมาณ 300 บาทเท่านั้น ตุ๊กตา m&m football player สีเหลือง ราคาขาย ประมาณ 60-80 เหรียญ ( ต้นทุน 300 บาท ) สีเขียว 30-40 เหรียญ ที่ขายได้ราคาสูงก็เพราะว่าเป็นตัวที่ออกในเมืองไทยเท่านั้น จึงเป็นที่ต้องการของนักสะสมจากอเมริกา Pepsi trading card ราคาขาย 80-100 เหรียญ ( ต้นทุน 1,000 บาท ) ของสะสมจาก 7-11 เสื้อผ้า สโร่ง รองเท้าแตะลวดลายแปลกๆ เสื้อยืดลายโคคาโคลา ประเทศไทย ถึงตอนนี้มีคนไทยเข้ามาขายของในอีเบย์เพิ่มขึ้นทุกวัน สินค้าต่างๆ มีมากขึ้น หลากหลาย ลองเข้าไปดู ไม่แน่ ebay.com อาจจะเป็นช่องทางใหม่ๆสำหรับคุณก็ได้ " " สินค้าแปลกๆในอีเบย์ อย่างเช่น คุณยายอายุ 94 ปี ราคาขายสูงสุดถึง 1 ล้านเหรียญ มีคนเข้ามาประมูลถึง 9 คน แต่ก็ไม่มีการขายเกิดขึ้นเพราะผิดกฎหมาย ชายคนหนึ่งขายวิญญาณ ตัวเองในราคา ห้าพันเหรียญ แต่ไม่มีใครซื้อ ขายเด็ก 24 คน ได้ในราคา 51 เหรียญ ขายโคเคน 200 ปอนด์ ในราคา 2 ล้านเหรียญ ขายเด็กบริสุทธิ์ ( ชาย ) อายุ 17 ปี ได้ในราคา 10 ล้านเหรียญ มีผู้เข้ามาประมูล 17 คน ชายคนเดิมพยายามขายวิญญาณครั้งที่ 2 และก็มีคนซื้อไปในราคา 10.50 เหรียญ ขายอารมณ์ขัน ราคา 9.99 เหรียญ ซึ่งรายการที่ว่ามาทั้งหมด สุดท้ายก็ไม่ได้มีการขายเกิดขึ้นจริง เนื่องจากผิดกฎหมาย หรือไม่ก็เป็นสินค้าที่ไม่มีอยู่จริง แต่ที่เด็ดที่สุดและมีการจ่ายเงิน ซื้อขายกันจริงๆ ได้แก่ของกินคนดัง ระดับดาราร็อค ซึ่งกินเหลือไว้ มีคนซื้อไปในราคากว่า หนึ่งพันเหรียญ " ebay.com ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นหูเท่ากับ amazon หรือว่า yahoo แต่ ebay กลับกลายเป็นเว็บไซต์ ที่คนอเมริกันใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์กับมันมากที่สุด เฉลี่ยแล้วถึง หนึ่งชั่วโมงสี่สิบห้านาที ขณะที่เว็บไซต์อย่าง amazon ใช้เวลาเพียงเฉลี่ยเพียง 13 นาทีเท่านั้น amazon อาจจะสร้างความฮือฮาในฐานะที่เป็นเว็บไซต์ขายหนังสือที่ขายดีที่สุด และเปลี่ยนพฤติกรรมของคนซื้อและคนขายหนังสือ แต่สำหรับ ebay แล้ว กลับส่งผลกระทบต่อระบบค้าขายปลีกทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา ระบบธุรกิจสั่นสะเทือนกับรูปแบบการค้าขายบนอินเตอร์เน็ตของ ebay พนักงานงานบริษัทจำนวนมากลาออกมาขายของใน ebay ระบบคนกลางถูกตัดออกไป กลายเป็นการซื้อขายระหว่างผู้ซื้อกับผู้ผลิตที่เป็นผู้ขายโดยตรง จนร้านค้าปลีกหลายแห่งต้องมาใช้วิธีการประมูลออนไลน์เป็นช่องทางหนึ่งในการค้าขาย ebay เริ่มก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายปี พศ.2538 โดยปิแอร์ โอมิดยาร์ เริ่มแรกเป็นเพียงเว็บไซต์สำหรับการประมูลสิ่งของจากการสะสม แนวความคิดของเขาก็คือว่าจะต้องเป็นช่องทางที่เปิดกว้างสำหรับผู้คนมากที่สุด เพียงเดือนแรกเท่านั้นมีผู้คนให้ความสนใจมากมาย จากที่เคยให้บริการฟรีจึงต้องมีการคิดค่าธรรมเนียม 10 เซ็นต์ต่อหนึ่งรายการ รายได้ของ ebay เพิ่มขึ้นเป็นพันเหรียญอย่างรวดเร็วในเดือนแรก และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนโอมิตยาร์ต้องจ้างพนักงานมาเพิ่มเติม ทั้งฝ่ายเทคนิค ฝ่ายบริการลูกค้า ฝ่ายการเงิน ปีพศ.2540 โอมิตยาร์ ตั้งบริษัทเบนซ์มาร์ก แคปิตอล ทุนจดทะเบียน 6.5 ล้านเหรียญ ปัจจุบันเป็นบริษัทที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ราคาหุ้นพุ่งจาก 18 เหรียญ ขึ้นไปเป็น 47 เหรียญ และขึ้นไปสูงถึง 120 เหรียญ ในปีที่ผ่านมา ก่อนจะตกมาอยู่ที่ระดับ 50-60 เหรียญ ในปัจจุบัน ขณะที่หลายเว็บไซต์ที่เคยมีอนาคตสดใสกลับดูเหมือนว่ามีเพียง ebay เท่านั้นที่ยังคงเป็นบริษัทดอทคอม ที่เป็นที่เชื่อใจของนักลงทุนมากที่สุด เหตุผลอย่างหนึ่งก็คือว่า ebay ไม่ใช่แค่เว็บ ซื้อ ขายของ แต่ ebay เป็นเหมือนชุมชนทางอินเตอร์เน็ต เป็นชุมชนเสมือนที่มีอยู่จริง ในต้นปีพศ.2542 ebay มีสมาชิก 2.2 ล้านคน สิ้นปีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านคน มีการซื้อขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 276 ยอดขายเพิ่มจาก 745 ล้านเหรียญ เป็น 2800 ล้านเหรียญ กระแสของการขายสินค้าแบบประมูลออนไลน์ ของ ebay ทำให้เกดเว็บไซต์ประเภทเดียวกันมากมาย รวมทั้ง yahoo และ amazon ก็เปิดเว็บไซต์ประมูลของตัวเองขึ้นมา แต่ความเป็นเจ้าแรกของ ebay ทำให้ยังคงทิ้งห่างจากคู่แข่งขันรายใหญ่ทั้ง 2 รายอย่างเทียบไม่ติด ปัจจุบัน ebay มียอดขายราว 12 ล้านเหรียญต่อวัน ขณะที่ yahoo auction มียอดขาย เพียง ห้าแสนเหรียญ และ amazon auction มียอดขายเพียง สองแสน เหรียญต่อวันเท่านั้น คนไทยใน ebay ชื่อ ebay ยังไม่เป็นที่รู้จักเป็นวงกว้างเหมือนกับ yahoo hotmail หรือว่า amazon แต่ก็มีคนไทยจำนวนมากที่เข้าไปซื้อและขายใน ebay การประมูลออนไลน์บน ebay กลายเป็นช่องทางสำหรับการขายบนอินเตอร์เน็ต ที่ได้ผลมากกว่ายอดขายในเว็บไซต์เสียอีก สินค้าไทยที่มีขายใน ebay มีตั้งแต่เสื้อผ้า สินค้าหัตถกรรม ผ้าไหม รองเท้า นาฬิกา ของเล่น เสื้อยืดกระทิงแดง แก้วสตาร์บัค ของสะสมต่างๆของแมคโดนัลด์ เคเอฟซี เซเว่นอีเลฟเว่น ไปจนถึงน้ำตาลมิตรผล ปัญหาสำหรับคนต่างประเทศที่เข้าไปซื้อขายใน ebay ก็คือการขนส่ง เพราะผู้ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นคนอเมริกัน การซื้อขายแต่ละครั้งจะต้องผ่านการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ ซึ่งราคาค่อนข้างสูงถึงแม้ว่าผู้ซื้อจะต้องเป็นผู้จ่ายเงินสำหรับค่าขนส่งก็ตาม แต่ก็มีสินค้าหลายรายการที่ยังคงขายได้ เรียกว่าผู้ขายมีการเลือกสินค้าที่เป็นที่ต้องการของคนอเมริกันถึงแม้จะต้องจ่ายค่าขนส่งแพงหน่อยก็ตาม จนดูเหมือนว่า ebay กลายเป็นอีกช่องทางหนึ่งของการขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ต เพราะนอกจากจะซื้อขายกันทางการประมูลแล้ว ยังมีการติดต่อซื้อขายกันนอกรอบผ่านอีเมล์กันอีกต่างหาก เริ่มต้นประมูลกับ ebay เริ่มต้นก็ต้องเข้าไปลงทะเบียนกับ ebay ก่อน สิ่งที่จะต้องมีก็คือข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณ และอีเมล์ แอดเดรส สำหรับคนต่างประเทศ หรือคนอเมริกา ที่ใช้ อีเมล์ ของ yahoo,hotmail หรือ ประเภทเมล์ฟรีทั้งหลาย ที่ไม่ใช่ aol ต้องเตรียมบัตรเครดิต ในที่นี้ ebay อนุญาต ให้ใช้บัตรเครดิตใครก็ได้ ( คงไม่ใช่บัตรที่ไปขโมยเค้ามา ) โดยบัตรเครดิตใช้สำหรับยืนยันว่ามีตัวตนจริงๆ สามารถ อ้างอิงได้ เมื่อลงทะเบียนได้แล้ว ก็จะได้ชื่อ id user สำหรับซื้อขายใน ebay สำหรับคนที่เพิ่งได้ id user มาใหม่ จะมีแว่นดำ เป็นเครื่องหมายต่อท้าย บอกให้รู้ว่าเพิ่งเป็นสมาชิกใหม่เอี่ยม ไม่ถึง 1 เดือน ( หรือมีการเปลี่ยน id user ก็จะมี แว่นดำห้อยท้ายชื่อเหมือนกัน เพื่อบอกให้รู้ว่า เพิ่งจะมีการเปลี่ยนชื่อ ) หลังชื่อจะมีตัวเลข ตัวเลขนี้คือ feedback forum ซึ่งเป็นบริการอย่างหนึ่งของ ebay ที่เมื่อการซื้อขายเสร็จสิ้น จะมีการเขียนชมเชย หรือต่อว่ากันหากไม่พอใจกับการซื้อขาย ระหว่างกัน ดังนั้นเมื่อได้ id user มาใหม่ ตัวเลขที่ต่อท้ายจึงยังคงเป็นศูนย์ เมื่อมีการซื้อขายสมบูรณ์ ตัวเลข feedback จึงจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ในเดือนธันวาคม ปีพศ.2542 ชื่อของ parrothead88 เป็นคนแรกที่ feedback ขึ้นหลัก 10,000 ใครใคร่ค้า ใครใคร่ขาย สินค้าใน ebay มีแต่ตั้งซิป ของเล่น ปากาใช้แล้ว ตั๋วเดินทาง คอมพิวเตอร์ ไปจนถึง โยโย่ การลงประกาศขายใน ebay จึงต้องเลือหมวดหมู่ให้ถูกต้อง และเมื่อเป็นการซื้อขายที่ไม่ได้เห็นจากของจริง จึงต้องมีรายละเอียดต่างๆ ทั้งรูปถ่ายและข้อมูลปลีกย่อยต่างๆ รายการ ( item) ต่างๆจึงต้องบอกรายละเอียดให้มากที่สุดเพื่อผู้ซื้อจะได้ตัดสินใจซื้อได้ง่าย ทุกวันนี้สินค้าที่มีขายในอีเบย์มีทุกอย่าง เป็นชุมชนการซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดในโลก แบ่งแยกหมวดหมู่ออกได้ถึง 45,000 หมวดหมู่ และเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวัน การจ่ายเงิน การซื้อขายใน ebay ส่วนใหญ่จะเป็นการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านระบบของ paypal ซึ่งเป็นการจ่ายเงินโดยส่งไปพร้อมกับ อีเมล์ แต่ถ้าไม่มีบัตรเครดิตก็ไม่เป็นไร เพราะรูปแบบการจ่ายเงินบน ebay มีหลายวิธี ตั้งแต่การใช้บัตรเครดิต money order ( ธนาณัติ ) เช็ค ซึ่งแล้วแต่ความสะดวกที่จะตกลงกันระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ส่วนใหญ่หลังการปิดประมูลก็จะมีการติดต่อกันผ่านอีเมล์ ผู้ขายจะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงิน ค่าขนส่ง ผู้ซื้อก็จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่อยู่สำหรับการจัดส่งสินค้า การจ่ายเงิน สินค้าส่วนใหญ่ที่ขายในอีเบย์มักจะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดส่ง ส่วนใหญ่ยินดีส่งสินค้าไปทั่วโลก โดยผู้ซื้อจะเป็นผู้จ่ายค่าขนส่งตามความเป็นจริง หรือแล้วแต่เงื่อนไขของผู้ขาย ระบบการจ่ายเงินมีทั้งการติดต่อกันโดยตรงหรือว่าผ่านคนกลางอย่าง iescerow.com หรือ tradesafe.com โดยบริษัทตัวกลางเหล่านี้จะเข้ามาเพื่อให้การซื้อขายเป็นไปอย่างราบรื่นทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย บริการโดยตัวกลางทำให้ผู้ซื้อได้สินค้าตามที่ระบุเอาไว้ในรายละเอียด ผู้ขายก็ได้รับเงินครบถ้วน ใครใคร่ค้า ค้า ใครใคร่ขาย ขาย ใน ebay ใครอยากขายอะไรได้ทุกอย่าง สินค้าแปลกๆมีมากมาย ของที่คิดว่าจะหาซื้อที่ไหนไม่ได้ หาซื้อได้ที่นี่ นาฬิกาโบราณ ของสะสม ของแต่งบ้าน เสื้อผ้า ทั้งที่มียี่ห้อ ทั้งของจริงและของเลียนแบบ สินค้าประเภทเซ็กส์ช้อป ก็มีให้เลือกซื้อ ( อายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องมีผู้ปกครองให้คำแนะนำในการสมัครเข้ามาซื้อ ขาย ใน อีเบย์ ) เจ้าของเวบไซต์ e commerce หลายแห่งใช้ อีเบย์เป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับเพิ่มยอดขาย ปรากฎว่าสินค้าที่ขายใน อีเบย์ ได้ราคาดีกว่าที่ขายอยู่ในเวบไซต์ของตัวเองเสียอีก หลังจากประสบความสำเร็จเป็นเว็บไซต์ ที่ทำกำไรตั้งแต่เดือนแรกในอินเตอร์เน็ต ปัจจุบันอีเบย์เพิ่งย่างเข้าสู่ปีที่ 5 และดูเหมือนว่ายังคงเป็นเว็บไซต์ที่มีอนาคตสดใสที่สุด อีเบย์ก็เพิ่มเปิดตลาดในภูมิภาคต่างๆ ใน เยอรมันนี สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น สเปน บราซิล แคนาดา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น สำหรับเมืองไทยถึงแม้ว่ายังมีอุปสรรคหลายๆอย่างทั้งในเรื่องของการขนส่ง ระบบการจ่ายเงิน ( อีเบย์ เปิดให้บริการ billpoint สำหรับการจ่ายเงินทางอินเตอร์เน็ต โดยตัดจากบัตรเครดิต แต่ระบบบัตรเครดิตในประเทศไทย ยังไม่สามารถใช้รับ จ่ายเงินได้ ) แต่สินค้าหลายชนิด เริ่มเป็นที่ต้องการจากผู้ซื้อในอเมริกา และยุโรป สำหรับผู้ที่ต้องการขายสินค้าในอีเบย์ ลองเข้าไปดู และ search ด้วย key word " Thailand " เผื่อจะได้แนวคิด ในการใช้อีเบย์เป็นช่องทางหนึ่งทางการตลาด อย่าลืมว่า สำหรับอินเตอร์เน็ตแล้ว ใครที่มาก่อนมักจะได้เปรียบเสมอ

What I Bought On Ebay